วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้อย่างไร

การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
โรงเรียนอนุบาลศรทิพย์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
 
อดิศร  บาลโสง รหัส 57410086 
ประวัติความเป็นมา
 
               โรงเรียนอนุบาลศรทิพย์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2546 เป็นโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญ ที่เกิดขึ้นจากผลึกความคิดและประสบการณ์ของผู้บริหารคลินิกศรทิพย์การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ด้วยแนวความคิดการบูรณาการการจัดประสบการณ์การชีวิตแก่ผู้เรียน ตามทฤษฏีการเรียนรู้ และทฤษฏีพฤติกรรมสุขภาพโดยมีเป้าประสงค์ให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะชีวิต ไปพร้อมกับพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง และดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมั่นใจและมีความสุข ตามวิสัยทัศน์ร่วมของโรงเรียน "ภายในปีพุทธศักราช 2559 โรงเรียนอนุบาลศรทิพย์ เป็นโรงเรียนเอกชนช้ันนำ ผู้เรียนเป็นคนดี มีภูมิรู้ มีความสุข มั่นใจในการดำเนินชีวิต และมีจิตสาธารณะ"
                โรงเรียนได้มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้คร้ังแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2547 โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ PC จำนวน 10 เครื่อง พร้อมระบบเครือข่าย Internet และระบบ LAN ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 โรงเรียนได้ปรับปรุงห้องเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ เพิ่มเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ PC เป็น 30 เครื่อง พร้อมปรับปรุงระบบเครือข่าย Internet เป็นแบบไร้สาย ในปี พ.ศ.2555 ตามนโยบายหนึ่งนักเรียนหนึ่งคอมพิเตอร์พกพา(OTPC: One Tablet Per Child) ของรัฐบาลไทย โรงเรียนได้รับจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา(Tablet) สำหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 60 เครื่อง โรงเรียนจึงได้เพิ่มจุดจ่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายเพิ่มเติมเป็น 2 จุด แต่พบว่าครูโดยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำ   เทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า
                  การจัดการเรียนรู้ในยุคของการสื่อสารแบบไร้สาย ครูและนักเรียนส่วนใหญ่มีอุปกรณ์สื่อสารที่สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้อย่างรวดเร็ว การวางแผนและจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานในสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้จึงเป็นการวางพื้นฐานการเรียนรู้ที่มีความสำคัญ และสอดคล้องกับสภาพบริบททางสังคมการสื่อสารที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
 
 
 
 
 
วัตถุประสงค์
 
               1. เพื่อส่งเสริมให้ครูมีความรู้ความสามารถในการใช้ และนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น
               2. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้พื้นฐานการใช้งาน และเรียนรู้จากสื่อ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างถูกต้องและเหมาะสม
                3. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้สูงขึ้น
 
วิธีการดำเนินงาน
                1. นำเสนอแผนงาน/โครงการเพื่อขออนุมัติดำเนินการ
                2. จัดประชุมวิชาการ เรื่อง การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ โดยครูปฐมวัย ประถม และมัธยม ต้องเข้าประชุมทุกคน
                3. กำหนดมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนดังนี้
                          3.1 ครูใช้สื่อที่ได้จากการสืบค้นจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในทุกแผนการจัดการเรียนรู้ อย่างน้อย 1 เรื่องต่อหน่วยการเรียนรู้
                           3.2 ครูใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรียนการสอน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของกระบวนการจัดการเรียนการสอน 
                           3.3 ครูใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการสื่อสารด้านการจัดการเรียนรู้กับนักเรียน ไม่น้อยกว่า 1 คร้ังต่อหน่วยการเรียนรู้
                4.   การวางแผนการนิเทศและติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรฐานที่กำหนด
               5. ติดตามวัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนรู้ของนักเรียน เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนการดำเนินงานตามโครงการ
                 6. ปรับปรุงอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบ ติดตามปัญหาอุปสรรค และแก้ไขปรับปรุงระบบฯ ในระหว่างดำเนินการ
 
สรุป
       จากการดำเนินงานตามแผนงานโครงการในระยะที่ 1 (กค.-สค.2557)  พบว่า 1) ในส่วนครู พบว่าทุกคนได้เข้าร่วมประชุมวิชาการเพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ  ครูส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 ใช้สื่อที่ได้จากการสืบค้นด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ครูร้อยละ 75  สามารถนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าสู่กระบวนการจัดการเรียนรุู้ ครูร้อยละ 60 ที่สามารถใช้การสื่อสารด้านการจัดการเรียนรู้กับนักเรียนได้  2)ในส่วนของนักเรียน พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความสนุกและพึงพอใจกับกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ  และได้ใช้งานในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เก่ียวข้องกับการเรียนของตนเองมากขึ้น แต่นักเรียนมีระดับผลการเรียนรู้สูงขึ้นจากเดิมเพียงเล็กน้อย  3) ด้านการปรับปรุงระบบโรงเรียนได้จัดให้มีเครื่องฉายโปรเจอร์เตอร์ในทุกห้องเรียนของระดับประถม และมัธยม มีระบบห้องรวมสำหรับช้ันปฐมวัย  4) ด้านปัญหาอุปสรรค พบว่าครูยังใช้ระบบไม่เต็มตามศักยภาพนัก  และยังมีเครื่องมือสื่อสารที่ยังไม่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบ
        แต่อย่างไรก็ตาม ในการประเมินผลช่วงแรกจะพบว่าครูและนักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ด้วยกระบวนการที่ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงคาดว่าในการประเมินผลครั้งต่อไปจะพบนักเรียนมีผลการเรียนรู้ที่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา
 
ภาพกิจกรรม
ภาพจาก www.phanomwan.ac.th online 07/09/2014 online 10.30 am.
 
ภาพจาก http://ict.srp.ac.th/web/unit2/b1.gif online 7/09/2014 10.57 am.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น